ผู้ป่วยเบาหวานที่มีการเสื่อมของเส้นประสาทส่วนปลาย เป็นปัญหาสำคัญของการเกิดแผลที่เท้า
สาเหตุที่ทำให้เส้นประสาทส่วนปลายเสื่อมอาจเกิดได้จากภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรังทำให้สารสื่อประสาทหรือเซลล์ประสาทถูกทำลาย หรือเกิดจากเส้นเลือดมาเลี้ยงที่ขาตีบตันเป็นผลทำให้การไหลเวียนของเลือด
ลดลง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการชา ไม่รู้สึก ไม่สามารถรับรู้ภยันตรายที่เกิดขึ้น ตลอดจนแรงกดทับที่ผิดปกติ
เป็นสาเหตุให้เกิดแผลที่เท้าได้ง่ายและเกิดการติดเชื้อลุกลามจนนำไปสู่การถูกตัดขาในที่สุด การบริหารเท้า
จึงเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณเท้าเพื่อป้องกันและลดภาวะแทรกซ้อนที่เท้า
การนวดเท้ามีทั้งการนวดโดยใช้มือนวดที่ฝ่าเท้าและการนวดเท้าด้วยอุปกรณ์ เชื่อว่าการใช้เท้าเปล่าเดินเหยียบบนหินหรือบนกะลาก็เปรียบเสมือนกับการใช้หินหรือกะลานวดฝ่าเท้า
การนวดเท้าด้วยการเหยียบกะลาที่นำมาใช้ในการศึกษาเป็นท่าการเหยียบกะลาของคุณยายวิรุฬ ชะเอมสินธุ์
มีทั้งหมด 5 ท่าด้วยกัน โดยแต่ละท่าจะใช้เวลา 3 นาที ผู้ป่วยเบาหวานนวดเท้าด้วยการเหยียบกะลาอย่างน้อย
5 วันต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 1 เดือน
ดังนั้นการให้ความรู้เรื่องการดูแลเท้าในผู้ป่วยเบาหวานควรให้ควบคู่กับการนวดเท้าด้วยการเหยียบกะลา
เป็นการเพิ่มความรู้ในการดูแลเท้าและทำให้อาการชาที่เท้าลดลงได้ภายหลังการนวดเท้าด้วยการเหยียบกะลา เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการดูแลเท้าของผู้ป่วยเบาหวานให้ได้รับผลดียิ่งขึ้น
|